ซูปร้าอินมูนซ่า (Supra Inmunza) รักษา โรคภูมิแพ้
การพิสูจน์หาสาเหตุของโรคภูมิแพ้และรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยบางคนเริ่มจากอาการแพ้อากาศเรื้อรัง เยื่อจมูกอักเสบ เมื่อไม่ได้ใส่ใจรักษา ต่อมาอาจกลายเป็นโรคหอบหืด โรคผื่นคันผิวหนัง เช่น ลมพิษ ปวดศีรษะเรื้อรัง โรคอ่อนเพลียต่างๆ เป็นต้น การรักษาโรคภูมิแพ้
1. ค้นหาตัวต้นเหตุและหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ทีดีที่สุด คือ การค้นหาสาเหตุของการแพ้นั้นให้พบ เช่น การสอบถามประวัติและอาการของโรค พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เช่น บ้าน รถยนต์ โรงเรียน สัตว์เลี้ยง งานอดิเรก ตรวจร่างกายและทดสอบทางผิวหนัง เมื่อทราบว่าแพ้สารใดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงสารที่ให้เกิดภูมิแพ้ที่ถูกต้องและอาการของโรคภูมิแพ้ก็จะทุเลา ในทางปฏิบัตินั้นการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้นทำได้ยาก เพราะชีวิตประจำวันนั้นต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้กระจายอยู่รอบๆ ตัว เช่นฝุ่นบ้าน ไรฝุ่น เชื้อรา และอื่น ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้การรักษาอาการของโรคอันเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นและได้มักจะได้ผลดี แพทย์อาจให้รับประทานยาแพ้แพ้ แก้หอบ แก้ไอร่วมด้วย เป็นต้น
2. ฉีดวัคซีนให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน เป็นการรักษาได้ผลดีพอสมควร ได้แก่ การหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้ให้พบแล้วนำสารก่อภูมิแพ้ที่ตรวจพบนี้นำมาผลิตวัคซีนให้ผู้ป่วย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานสารที่แพ้ (อิมมูโนบำบัด) คือ รักษาให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทานสารที่แพ้ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การรักษาเพื่อลดภูมิไว คือ ให้ร่างกายลดความไวต่อสารที่ก่อให้เกิดโรค
บางคนเชื่อว่า ถ้าเด็กเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่เล็กพอโตขึ้นอาจหายไปเองได้และไม่จำเป็นต้องรักษาอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนัก โรคภูมิแพ้อาจทำให้เด็กเจริญเติบโตช้า การปรับตัวเข้ากับสังคมเพื่อนๆ และสภาพแวดล้อมได้ไม่ดี เกิดปมด้อย เด็กอาจขาดความมั่นใจ ส่วนเด็กที่แพ้อากาศถ้าไม่รักษาต่อมาก็อาจกลายเป็นโรคหอบหืดที่มีอาการของโรคแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้ หากสงสัยว่าเด็กนั้นเป็นโรคภูมิแพ้ ควรนำเด็กไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพาะด้าน เพื่อค้นหาว่าแพ้อะไรบ้าง การดูแลรักษาในเบื้องต้นนั้นทำได้โดยการพยายามหลีกเลี่ยงสารที่แพ้ ซึ่งจะทำให้อาการของโรคนั้นลดลงหรือหมดไปได้ ปัจจุบันยารักษาโรคภูมิแพ้ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้นมีหลายประเภท ทั้งยารับประทาน ยาสูดเข้าหลอดลม ยาพ่นจมูก ยาหยอดตา และยาทาผิวหนัง
ยาที่ใช้เพื่อควบคุมอาการแพ้
1. ยาต้านฮิสตามีน ที่เป็นที่รู้จักกัน คือ คลอร์เฟ-นิรามีน ซึ่งเป็นเม็ดเล็กๆ สีเหลือง หรือไฮดรอกไซซีน ซึ่งเป็นเม็ดเล็กสีขาว ยาทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นยาที่ใช้ได้ผลดีในการรักษาโรคภูมิแพ้ และราคาย่อมเยา แต่มีข้อเสียคือทำให้ง่วง ปากแห้ง คอแห้ง ในรายที่ต้องทำงานที่เสี่ยงอันตราย เช่น ขับรถ ทำงานเครื่องจักร เป็นต้น ก็ควรหลีกเลี่ยงยาชนิดนี้ โดยไม่ใช้ยาในกลุ่มใหม่ เช่น ลอราทาดีน เซทิริซีน เฟกโซเฟนาดีน เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดอาการ ง่วงนอนได้น้อย ทั้งยังออกฤทธิ์ได้นาน จึงใช้เพียงวันละ 1- 2ครั้ง ก็เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ของยาทั้งวัน2. ยาคอร์ติโคสตีรอยด์ หรือยาสตีรอยด์ มีทั้งชนิดฉีด ชนิดเม็ด ชนิดพ่นจมูก ชนิดสูดเข้าปอด ชนิดครีมทาผิวหนัง เป็นต้น เป็นยาที่ได้ผลดีในการรักษา แต่เมื่อมีการใช้ติดต่อกันนานๆ จะทำให้เกิดผลเสียอย่างรุนแรงต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะชนิดฉีดและชนิดเม็ด เมื่อมีการใช้นานๆ จะไปกดการทำงานของไต ระบบภูมิคุ้มกันและอื่นๆ ทำให้ร่างกายมีการสะสมของน้ำเป็นปริมาณมาก ทำให้ตัวบวมน้ำ ความดันเลือดสูงขึ้น และยังทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย น้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น ในทางการแพทย์จึงไม่ใช้ยาสตีรอยด์ ในกรณีทั่วไป จะเก็บไว้ใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ส่วนยาสตีรอยด์ในรูปแบบชนิดพ่นจมูก ชนิดสูดเข้าปอด และชนิดครีมทาผิวหนังเป็นรูปแบบที่ได้ผลดีที่ยา ไปออกฤทธิ์ ณ จุดออกฤทธิ์ของยาได้เลย ซึ่งอาจมีการดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปออกฤทธิ์ทั่วร่างกายเหมือนดั่งยาฉีดและยาเม็ด แต่ถูกดูดซึมได้ในปริมาณที่น้อยมาก จึงใช้ได้อย่างปลอดภัย
ปัจจุบัน ซูปร้าอินมูนซ่า (Supra Inmunza) ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้จริง เป็นผลชัด ปลอดภัย 100%
วิธีรับประทาน รับประทาน วันละ 2 ครั้งๆ ละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า และ ก่อนนอน
ซูปร้าอินมูนซ่า (Supra Inmunza) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1200 บาท
เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0033
สั่งสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://suprainmunzasaibua.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ sboonmuen@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น