สารก่อภูมิแพ้ คืออะไร
สารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่ ตัวไรฝุ่น รองลงมาคือ แมลงสาบ แมวและสุนัข เกสรหญ้า เชื้อรา ตามลำดับ ซึ่งสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ จะกระตุ้นให้เกิดอาการทางภูมิแพ้ต่างๆ อาทิ โรคหอบหืด โรคแพ้อากาศ และโรคผื่นภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็ีนต้น
ประเภทของสารก่อภูมิแพ้
1. สารก่อภูมิแพ้ในที่อยู่อาศัย 1.1 ไรฝุ่น ปัจจุบันคนไทยเป็นภูมิแพ้ต่อไรฝุ่นมากเป็นอันดับหนึ่ง จากผลการทดสอบทางผิวหนังที่แสดงว่า ผู้ป่วยแพ้ต่อไรฝุ่นในผู้ป่วยหอบหืดและผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ทางจมูกในประเทศไทยมีได้ประมาณ 70-90% ตัวไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญที่สุด ตัวไรฝุ่นเป็นแมลงขนาดเล็กที่มี 8 ขา ชอบอาศัยอยู่ตามบริเวณที่มีความอบอุ่นและชุ่มชื้น อาหารที่สำคัญของตัวไรฝุ่นคือ สะเก็ดผิวหนังมนุษย์ จึงพบตัวไรฝุ่นมากตามที่นอน ผ้าห่ม พรม ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ ตัวไรฝุ่นมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน และสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นจะสามารถคงอยู่ในที่ๆ มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมได้ถึง 18 เดือน การขจัดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จะทำให้อาการของโรคภูมิแพ้ในคนที่มีการแพ้ไรฝุ่นมีอาการดีขึ้น
วิธีการขจัดตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่น
การลดปริมาณตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นสามารถทำได้หลายวิธี การใช้หลายๆ วิธีรวมกันจะได้ผลดีกว่าการใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง 1.การคลุมที่นอนและเครื่องนอนต่างๆ สามารถทำได้โดยใช้พลาสติกหรือผ้ากันไรฝุ่น วิธีนี้เป็นเพียงการไม่ให้ไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้มาถึงตัวผู้ป่วย แต่ตัวไรฝุ่นยังสามารถเจริญเติบโตใต้ผ้าคลุมได้ จึงควรใช้ที่นอนใหม่และซักปลอกหมอนหรือผ้าห่มด้วยน้ำร้อน เพื่อเป็นการทำลายตัวไรฝุ่น
2.การซักผ้าเคร่องนอน ควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนและผ้าห่มด้วยการต้มที่อุณหภูมิมากกว่า 55 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ทุกๆ 1-2 สัปดาห์
3.การดูดฝุ่นในบ้านที่มีพรม สามารถช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้ หากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรองประสิทธิภาพสูง (HEPA FILTER) แต่ตัวไรฝุ่นยังสามารถยึดเกาะติดพรม ทำให้ไม่สามารถขจัดตัวไรฝุ่นออกไปได้ทั้งหมด ทางที่ดีไม่ควรมีพรมในบ้าน
1.2 แมลงสาบ สารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบ และสารแพ้จากแมลงสาบพบเป็นอันดับสองในประเทศไทย จากผลการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังในผู้ป่วยหอบหืดและภูมิแพ้ทางจมูก พบว่า ให้ผลบวกต่อแมลงสาบถึง 35 – 50% แมลงสาบชอบอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล ถั่ว ซากสัตว์ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ แมลงสาบ 1 ตัว มีชีวิตตั้งแต่ไข่ถึงตัวแก่ประมาณ 2.5 ปี แมลงสาบต้องการอุณหภูมิที่อบอุ่น ความชื้น และอาหารจำพวกแป้ง จึงพบแมลงสาบมากในห้องครัวและห้องน้ำ โดยเฉพาะในที่ๆ มีคนอยู่กันอย่างหนาแน่น และเศรษฐานะต่ำหรือปานกลาง การกำจัดแมลงสาบควรทำดังนี้
1.การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ รวมทั้งการกำจัดแหล่งอาหารของแมลงสาบ
2.การใช้กับดักแมลงสาบ
1.3 แมวและสุนัข ในปัจจุบันมีผู้นำแมวและสุนัขมาเลี้ยงในบ้านมากขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยที่มีการแพ้ต่อแมวและสุนัขมีอาการเพิ่มขึ้น สารก่อภูมิแพ้จากแมวมาจากต่อมไขมันบนผิวหนังและน้ำลายเป็นส่วนใหญ่ สารเหล่านี้มีขนาดโมเลกุลเล็ก สามารถฟุ้งกระจายในอากาศได้เป็นเวลานาน แหล่งสะสมก่อภูมิแพ้จากแมว ได้แก่ ฝุ่นตามพื้นบ้าน เฟอร์นิเจอร์บุนวม พรม ที่นอน ผ้าม่าน ตลอดจนฝุ่นตามฝาผนัง สารเหล่านี้เป็นสารที่คงทนและสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน หลังจากกำจัดแมวออกจากบ้านไปแล้ว สำหรับการก่อภูมิแพ้จากสุนัขจะพบได้ในรังแค ขน และน้ำลาย การควบคุมและขจัดสารก่อภูมิแพ้จากแมวและสุนัขมีดังนี้
1.ไม่ควรเลี้ยงแมว หรือสุนัข ในบ้านที่มีผู้ป่วยภูมิแพ้ต่อสัตว์เหล่านี้
2.การใช้เครื่องกรองอากาศประสิทธิภาพสูง จะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้ แต่ประสิทธิภาพในการกำจัดจะไม่ดี ถ้ายังมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน
3.หากไม่สามารถกำจัดสัตว์เลี้ยงออกไปได้ การอาบน้ำสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์จะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้
2. สารก่อภูมิแพ้ภายนอกที่อยู่อาศัย สารก่อภูมิแพ้นอกที่อยู่อาศัยในประเทศไทยที่สำคัญ คือ
2.1. เกสรพืช เช่น
• เกสรหญ้า เช่น หญ้าแพรก หญ้าขนกก หญ้าพง ธูปฤาษี เป็นต้น
• เกสรวัชพืช เช่น ผักโขม
• สปอร์ของเฟิรน์ชนิดต่างๆ
• เกสรไม้ยืนต้น เช่น กระถินณรงค์ สนทะเล ไมยราพ มะม่วง ชมพู่
2.2. สปอร์ของเชื้อรา ที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่ Cladosporium, Fusarium, Aspergllus, Alternaria, Penicillium, Monillia, Yeast, Helminthosporium, Clavularia เป็นต้น การกำจัดสารก่อภูมิแพ้นอกที่อยู่อาศัยทำได้ยาก เพราะสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ สามารถปลิวมาจากสถานที่ห่างไกลจากบ้านผู้ป่วย การหลีกเลี่ยงที่สามารถทำได้ คือ
• การอาบน้ำชำระร่างกาย ล้างจมูกและล้างตาหลังจากไปในที่ที่สงสัยว่ามีฝุ่นเกสรพืชและเชื้อรา
• สวมแว่นตาและปิดกระจกรถเมื่อออกไปในบริเวณที่มีเกสรพืชและเชื้อรามากๆ
• หมั่นทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศในที่อยู่อาศัยจะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้
ปัจจุบัน ซูปร้าอินมูนซ่า (Supra Inmunza) ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ได้จริง เป็นผลชัด ปลอดภัย 100%
วิธีรับประทาน รับประทาน วันละ 2 ครั้งๆ ละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า และ ก่อนนอน
ซูปร้าอินมูนซ่า (Supra Inmunza) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0033
สั่งสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://suprainmunzasaibua.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ sboonmuen@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น